เกี่ยวกับ NITIC
สารจากผู้อำนวยการ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ของ National Institute of Technology, Ibaraki College!
การพัฒนาของสังคมสมัยใหม่ได้รับแรงผลักดันจากการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาขึ้นอยู่กับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ที่เกี่ยวข้อง คาดว่าอิทธิพลเหล่านี้จะไม่ถดถอยลงในศตวรรษนี้ และโครงสร้างอุตสาหกรรมจะเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้งตามวิวัฒนาการอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Thing หรือ IoT) , ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) เป็นต้น
ในช่วงเวลาที่สังคมเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ผู้คนตระหนักเห็นความสำคัญของการดูแลสังคม การถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีได้ก่อให้เกิดรากฐานของการศึกษา แต่อย่างไรก็ตามสำหรับสังคมในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและยากที่จะมองเห็นสภาพการณ์ในอนาคตนอกเหนือจากการถ่ายทอดความรู้ซึ่งเป็นพื้นฐานของเทคโนโลยีแล้ว การสร้างศักยภาพในการประเมินการเปลี่ยนแปลงของสังคม และการเสริมสร้างความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้วยตนเองได้กลายมาเป็นองค์ประกอบที่สำคัญยิ่งของการศึกษา นอกจากนี้ การตระหนักในการแสวงหาทิศทางของเทคโนโลยีในระดับโลกโดยคำนึงถึงอนาคตของโลกทั้งใบก็เป็นสิ่งที่สังคมต้องการด้วยเช่นกัน
National Institute of Technology (หรือ KOSEN) ได้จัดการศึกษาที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างไปจากระบบการศึกษาทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น โดยลักษณะเฉพาะของการศึกษา KOSEN จะมุ่งเน้นไปที่การศึกษาเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นระยะเวลา 5 ปี สำหรับเด็กวัยรุ่นที่มีอายุ 15 ปีที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นซึ่งเป็นวัยแห่งการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและจิตใจ และสร้างนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรเชิงปฏิบัติผ่านการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยความเข้าใจในหลักการพื้นฐาน ผ่านประสบการณ์จริงจากการทดลองและการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติ คุณลักษณะเฉพาะเช่นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งและได้รับการยอมรับอย่างสูงจากสังคมแม้ในปัจจุบันซึ่งสภาพแวดล้อมทางสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
สถาบัน National Institute of Technology, Ibaraki College (หรือ NITIC) เรากำลังมุ่งมั่นอย่างกระตือรือร้นเพื่อการศึกษาระดับโลกาภิวัฒน์ในการฝึกฝนพัฒนาวิศวกรที่จะรับผิดชอบยุคสมัยต่อไป ซึ่งพิจารณาแล้วว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการมองและเข้าใจโลกได้อย่างกว้างขวาง และสามารถรับมือกับปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบันได้สมกับคำกล่าวที่ว่า “Think globally, act locally” โดยศักยภาพที่จำเป็นของทรัพยากรมนุษย์ที่จะทำงานได้ในระดับสากลต้องมี 4 องค์ประกอบดังต่อไปนี้
- มีความเป็นเลิศในสาขาเฉพาะทาง: การมีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีและความรู้ในสาขาเฉพาะทางตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน
- มีความรู้ความเข้าใจในสังคมในระดับสากลอย่างกว้างขวาง: การมีความรู้ความเข้าใจในศาสตร์ ในสังคม และความสนใจที่หลากหลายนอกเหนือจากความรู้ในสาขาวิชาเฉพาะทาง
- มีความทักษะสามารถทางภาษาในฐานะเครื่องมือในการสื่อสาร: การฝึกฝนทักษะด้านภาษาที่มีภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในสาขาเทคนิคของตน และเรียนรู้เพื่อให้มีทักษะความสามารถในการทำความเข้าใจและติดต่อกับสาขาอื่นได้
- มีความเข้าใจในปัญหาระดับโลกและวัฒนธรรมอื่น: การมีความเข้าใจในปัญหาเพื่อการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันของมวลมนุษยชาติบนโลก อภิปรายกับผู้คนรอบข้างเพื่อมุ่งไปสู่การแก้ไขปัญหา และริเริ่มในทางปฏิบัติได้
National Institute of Technology, Ibaraki College จึงได้นำเสนอเนื้อหาทางการศึกษาและสภาพแวดล้อมทางการศึกษาตามมาตรฐานระดับโลกในศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้ เรายังจะสนับสนุนการเติบโตของความสนใจใคร่รู้ทางปัญญาของนักศึกษาอย่างเป็นขั้นตอน ถ่ายทอดสอนความสัมพันธ์ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับสังคมวิศวกรรมศาสตร์ และจัดให้มีการศึกษาด้านอาชีพระดับโลกเพื่อส่งเสริมให้เกิดการริเริ่มในการออกแบบชีวิตที่รวมถึงการเลือกอาชีพในฐานะที่เป็นวิศวกร นอกจากจะรวมสิ่งเหล่านี้เข้าไว้ในการศึกษาความรู้เทคโนโลยีเฉพาะทางแล้ว เรายังมุ่งที่จะฝึกฝนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่จะรับผิดชอบยุคสมัยรุ่นต่อไปอีกด้วย
President Tatsuhiro YONEKURA
คุณลักษณะเด่นของ NITIC
National Institute of Technology, Ibaraki College เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีฐานะเทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยที่ฝึกฝนพัฒนานักวิทยาศาสตร์และวิศวกร หลักสูตรปกติจะเปิดรับผู้ที่จบการ
ศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จัดการศึกษา 5 ปี มี 1 ภาควิชา คือ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ แบ่งเป็น 4 สาขา ผู้ที่เรียนจบหลักสูตรจะได้รับวุฒิอนุปริญญา สำหรับหลักสูตรขั้นสูง จะจัดการศึกษาในหลักสูตรขั้นสูงให้แก่ผู้ที่จบหลักสูตรปกติเป็นเวลา 2 ปี และจะมอบวุฒิปริญญาตรีแก่ผู้ที่สำเร็จการศึกษา
National Institute of Technology, Ibaraki College จัดการศึกษาตามแนวนโยบาย 3 ประการ เนื้อหาการศึกษาโดยมากจะมุ่งเน้นไปที่การทดลองและฝึกอบรมภาคปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ในชีวิตจริงเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้เราคงมาตรฐานของอัตราการได้รับการเสนองานให้อยู่ในระดับสูงได้ทั้งในส่วนของหลักสูตรปกติและหลักสูตรขั้นสูง และก็ยังมีอัตราการเทียบโอนเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยระดับชั้นปีที่ 3 หรือการศึกษาต่อไปยังบัณฑิตวิทยาลัยสูงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับชุมชนอย่างใกล้ชิดไม่จำกัดอยู่เพียงแค่ด้านการศึกษาเท่านั้น ในด้านการวิจัยก็พยายามที่จะทำประโยชน์ต่อสังคมท้องถิ่นในจังหวัดอิบารากิด้วยเช่นกัน
การศึกษาและการวิจัยของสถาบันของเราอยู่ภายใต้การประเมินและการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกมาโดยตลอด ในระยะที่ผ่านมาเราได้ผ่านการอนุมัติและรับรองการประเมินผลโดยสถาบันแห่งชาติเพื่อการศึกษาระดับปริญญาและการเพิ่มคุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษา (National Institution for Academic Degrees and Quality Enhancement of Higher Education) และเรายังขอให้องค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานท้องถิ่น ฯลฯ เข้าร่วม และขอรับฟังความคิดเห็นหรือคำแนะนำในด้านการจัดการบริหารงาน สิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นว่าการศึกษาวิจัยของสถาบันของเรา อีกทั้งนักศึกษาและคณาจารย์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญหลักของสถาบันมีศักยภาพมากพอกับที่ได้รับการประเมินจากภายนอก
วัตถุประสงค์และปรัชญาการศึกษาของ National Institute of Technology, Ibaraki College
วัตถุประสงค์และปรัชญาการศึกษาของ National Institute of Technology, Ibaraki College
วัตถุประสงค์ของ National Institute of Technology, Ibaraki College
วัตถุประสงค์ของสถาบันเราสอดคล้องตามเจตนารมณ์พระราชบัญญัติการศึกษาขั้นพื้นฐานและเป็น ไปตามพระราชบัญญัติการศึกษาโรงเรียนที่จะถ่ายทอดความรู้เฉพาะทางที่มีความลึกซึ้ง ฝึกฝนทักษะความสามารถที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพ และฝึกฝนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสามารถ นอกจากนี้เรายังมีส่วนในการพัฒนาสังคมผ่านการจัดการศึกษาเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ข้างต้นและส่งมอบผลลัพธ์นี้คืนสู่สังคมอย่างกว้างขวาง
ปรัชญาการศึกษาและภาพของบุคคลในอุดมคติของเรา
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช่วยให้เรามีสังคมที่สมบูรณ์และมั่งคั่ง ก่อให้เกิดความหลากหลาย และมีความเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับสังคม แต่ในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดปัญหาใหม่ซึ่งเราไม่เคยได้ประสบมาก่อน สถาบันเราได้กำหนดให้ “อิสระในการริเริ่มกับการสร้างสรรค์” เป็นปรัชญาการศึกษา และเพื่อให้เป็นสังคมที่มีความสมบูรณ์อย่างยั่งยืน เราได้ฝึกฝนสร้างวิศวกรที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ซึ่งก่อให้เกิดความรู้ใหม่ ๆ พร้อมทั้งมีอิสระในการริเริ่มทุ่มเทแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ได้ด้วยตนเอง
ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ
วัตถุประสงค์ของภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ
(หลักสูตรอนุปริญญา: นักศึกษาที่เข้าเรียนตั้งแต่ปีการศึกษา 2017)
วัตถุประสงค์ของภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คือ การอบรมให้ความรู้ในสาขาเฉพาะทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่จำเป็นในฐานะวิศวกรและความรู้พื้นฐานทางสังคมที่จำเป็นในฐานะพลเมืองของสังคม และฝึกฝนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีความแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ซึ่งสามารถจัดการกับปัญหาในสังคมโลกที่หลากหลายได้อย่างกระตือรือร้น
นโยบาย 3 ประการของภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ
ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการดำเนินการ “รับนักศึกษาเข้าเรียน” “จัดหลักสูตรและนำนโยบายไปปฏิบัติ” และ “อนุมัติจบการศึกษา” ตามแนวนโยบาย 3 ประการดังต่อไปนี้
นโยบายประกาศนียบัตร (นโยบายอนุมัติจบการศึกษา)
เพื่อที่จะอบรมให้ความรู้ในสาขาเฉพาะทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่จำเป็นในฐานะวิศวกรและความรู้พื้นฐานทางสังคมที่จำเป็นในฐานะพลเมืองของสังคม และฝึกฝนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความแข็งแกร่ง และเต็มไปด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ซึ่งสามารถจัดการกับปัญหาในสังคมโลกที่หลากหลายได้อย่างกระตือรือร้น ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการจึงได้มีการอนุมัติจบการศึกษาให้แก่นักศึกษาที่เก็บหน่วยกิตครบตามเกณฑ์ที่กำหนด และมีทักษะความสามารถดังต่อไปนี้
ทักษะความสามารถที่จะได้เรียนรู้จนจบการศึกษา (เป้าหมายการเรียนรู้และการศึกษา)
(A) ทักษะความสามารถที่ได้ศึกษาความรู้พื้นฐานของวิศวกรรมเฉพาะทางตามปรัชญาวิศวกรรม
(B) ทักษะความสามารถในการนำความรู้และเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมเฉพาะทางกับมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์โดยรวมมาใช้ประโยชน์ในการแก้ไขประเด็นปัญหาที่ตั้งขึ้นเองได้
(C) ทัศนคติ ความสามารถในการปฏิบัติงานและทักษะความสามารถในการสื่อสาร สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นพร้อมรับมือกับปัญหาทางสังคมจากมุมมองในระดับนานาชาติได้
นโยบายหลักสูตร (การจัดหลักสูตรและนำนโยบายไปปฏิบัติ)
สาขาวิศวกรรมเครื่องกลและระบบควบคุม
สาขาวิศวกรรมเครื่องกลและระบบควบคุมอบรมให้ความรู้ขั้นพื้นฐานทางวิศวกรรมเครื่องกลและระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์เพื่อฝึกฝนพัฒนาทักษะความสามารถตามที่กำหนดไว้ในนโยบายประกาศนียบัตร และจัดหลักสูตรเพื่อฝึกฝนพัฒนาวิศวกรที่สามารถนำความรู้ดังกล่าวนี้ไปใช้ในการแก้ไขปัญหาด้านระบบของเครื่องจักร เช่น เครื่องจักรอัจฉริยะ ฯลฯ ได้ คอร์สเครื่องกลจัดรายวิชาเพื่ออบรมให้ความรู้ในการคิดค้น ออกแบบ และประดิษฐ์ระบบเครื่องจักรเป็นหลัก คอร์ส
ระบบควบคุมจัดรายวิชาเพื่ออบรมให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีวงจรไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจำเป็นสำหรับการควบคุมระบบเครื่องจักรเป็นส่วนใหญ่
รายวิชาพื้นฐานทั่วไปในสาขาเครื่องกลและระบบควบคุมมีดังต่อไปนี้
1) วิชาด้านปรัชญาวิศวกรรมกับพื้นฐานวิศวกรรม: วิชาพื้นฐานวิศวกรรมอุตสาหการ วิชาการรู้สารสนเทศ เป็นต้น
2) วิชาด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี
3) วิชาเอก: วิชาเฉพาะทางเกี่ยวกับสาขาเครื่องกลและระบบควบคุม
3-1) วิชาพื้นฐานของสาขาเครื่องกลและระบบควบคุม:
วิชาเฉพาะทางพื้นฐานบนพื้นฐานความรู้การเขียนแบบ, การออกแบบเครื่องกล, กลศาสตร์, ของไหลความร้อน, งานก่อสร้าง, งานวัสดุ, วงจรไฟฟ้า, แม่เหล็กไฟฟ้า, วงจรอิเล็กทรอนิกส์, การวัด, ระบบควบคุม, การเขียนโปรแกรม, วงจรตรรกะ เป็นต้น
3-2) วิชาประยุกต์ของแต่ละหลักสูตร:
หลักสูตรเครื่องกล: วิชาเฉพาะทาง เช่น วิศวกรรมการผลิต, CAD CAM CAE เป็นต้น
หลักสูตรระบบควบคุม: วิชาเฉพาะทาง เช่น วิศวกรรมระบบ วิศวกรรมหุ่นยนต์ เป็นต้น
4) วิชาที่เกี่ยวข้องในการศึกษาความรู้ในสาขาอื่นที่นอกเหนือจากสาขาเครื่องกลและระบบควบคุม: วิชาสำหรับศึกษาความรู้พื้นฐานของวิชาโท (สาขาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, สาขาสารสนเทศ, สาขาเคมี ชีววิทยา และสิ่งแวดล้อม, สาขา Global) นอกเหนือจากวิชาเอก จำเป็นต้องเลือกวิชาโท 1 วิชา
5) วิชาที่เกี่ยวข้องกับทักษะความชำนาญ: วิชาปฏิบัติการทดลอง ได้แก่ การทดลองด้านเครื่องกลและระบบควบคุม เป็นต้น
6) วิชาพื้นฐานทางสังคมที่จำเป็นในฐานะที่เป็นพลเมืองของสังคม: วิชาในสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์เพื่อความเข้าใจในกิจกรรมอุตสาหกรรม ความหลากหลายของมนุษย์และสังคม
7) วิชาฝึกฝนพัฒนาศักยภาพในการเข้าใจปัญหาข้ามวัฒนธรรมและระดับโลก: วิชา Global Awareness, วิชา Global PBL เป็นต้น
8) วิชาฝึกฝนพัฒนาทักษะความสามารถทางภาษาในเชิงปฏิบัติ: วิชา Discussion English,
วิชา Presentation English เป็นต้น
9) วิชาฝึกฝนพัฒนาศักยภาพในการคิดเชิงสร้างสรรค์และความสามารถทั่วไป: วิชาเพื่อฝึกฝนพัฒนาทักษะความสามารถโดยรวม เช่น ความสามารถในการนำเสนองาน ความสามารถในการสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ การคิดเชิงตรรกะ ได้แก่ การทดลอง PBL, การศึกษาวิจัยเพื่อจบการศึกษา เป็นต้น
10) วิชาที่เสริมสร้างทัศนคติและแนวทางความคิด: วิชาเพื่อเรียนรู้การทำงานเป็นทีม, การออกแบบอาชีพ, การควบคุมตนเอง ได้แก่ พลศึกษา และกิจกรรมพิเศษ เป็นต้น
สาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
สาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อบรมให้ความรู้วิชาเฉพาะทางขั้นพื้นฐานทางวิชาวิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์บนพื้นฐานความรู้สารสนเทศ, ระบบควบคุม, การวัด, พลังงานไฟฟ้า, วิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์, วงจรอิเล็กทรอนิกส์, แม่เหล็กไฟฟ้า, วงจรไฟฟ้า กับวิชาประยุกต์เพื่อความเข้าใจในความรู้ต่าง ๆ เช่น ระบบควบคุม, ระบบพลังงานไฟฟ้า, อุปกรณ์ไฟฟ้า, อิเล็กทรอนิกส์กำลัง อย่างเป็นระบบ และยังจัดหลักสูตรเพื่อฝึกฝนพัฒนาวิศวกรด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถทำงานในแวดวงอุตสาหกรรมได้อย่างหลากหลาย
รายวิชาพื้นฐานทั่วไปในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีดังต่อไปนี้
1) วิชาด้านปรัชญาวิศวกรรมกับพื้นฐานวิศวกรรม: วิชาพื้นฐานวิศวกรรมอุตสาหการ วิชาการรู้สารสนเทศ เป็นต้น
2) วิชาด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี
3) วิชาเอก: วิชาเฉพาะทางเกี่ยวกับสาขาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
3-1) วิชาเอก วิชาพื้นฐานของสาขาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์: วิชาเฉพาะทางพื้นฐานบนพื้นฐานความรู้สารสนเทศ, ระบบควบคุม, การวัด, พลังงานไฟฟ้า, วิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์, วงจรอิเล็กทรอนิกส์, แม่เหล็กไฟฟ้า, วงจรไฟฟ้า เป็นต้น
3-2) วิชาสำหรับฝึกฝนพัฒนาวิศวกรไฟฟ้า (Qualified Electrical Engineer) กับผู้ดำเนินการวิทยุพิเศษภาคพื้นดินระดับ 2 (On-The-Ground II-Category Special Radio Operator): วิศวกรรมสื่อสารระบบไร้สาย, วิศวกรรมคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, ระบบการวัดอิเล็กทรอนิกส์, Power Electronics, ระบบพลังงานไฟฟ้า, วิศวกรรมคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น
4) วิชาที่เกี่ยวข้องในการศึกษาความรู้ในสาขาอื่นที่นอกเหนือจากสาขาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์: วิชาสำหรับศึกษาความรู้พื้นฐานของวิชาโท (สาขาเครื่องกลและระบบควบคุม, สาขาสารสนเทศ, สาขาเคมี ชีววิทยา และสิ่งแวดล้อม, สาขา Global) นอกเหนือจากวิชาเอก จำเป็นต้องเลือกวิชาโท 1 วิชา
5) วิชาที่เกี่ยวข้องกับทักษะความชำนาญ: วิชาปฏิบัติการทดลอง ได้แก่ การทดลองทางวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
6) วิชาพื้นฐานทางสังคมที่จำเป็นในฐานะที่เป็นพลเมืองของสังคม: วิชาในสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์เพื่อความเข้าใจในกิจกรรมอุตสาหกรรม ความหลากหลายของมนุษย์และสังคม
7) วิชาฝึกฝนพัฒนาศักยภาพในการเข้าใจปัญหาข้ามวัฒนธรรมและระดับโลก: วิชา Global Awareness, วิชา Global PBL เป็นต้น
8) วิชาฝึกฝนพัฒนาทักษะความสามารถทางภาษาในเชิงปฏิบัติ: วิชา Discussion English,
วิชา Presentation English เป็นต้น
9) วิชาฝึกฝนพัฒนาศักยภาพในการคิดเชิงสร้างสรรค์และความสามารถทั่วไป: วิชาเพื่อฝึกฝนพัฒนาทักษะความสามารถโดยรวม เช่น ความสามารถในการนำเสนองาน ความสามารถในการสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ การคิดเชิงตรรกะ ได้แก่ การทดลอง PBL, การศึกษาวิจัยเพื่อจบการศึกษา เป็นต้น
10) วิชาที่เสริมสร้างทัศนคติและแนวทางความคิด: วิชาเพื่อเรียนรู้การทำงานเป็นทีม, การออกแบบอาชีพ, การควบคุมตนเอง ได้แก่ พลศึกษา และกิจกรรมพิเศษ เป็นต้น
สาขาวิศวกรรมสารสนเทศ
สาขาวิศวกรรมสารสนเทศอบรมให้ความรู้ในสาขาวิศวกรรมสารสนเทศตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในสาขาวิศวกรรมสารสนเทศอย่างกว้างขวางเพื่อฝึกฝนพัฒนาทักษะความสามารถตามที่กำหนดไว้ในนโยบายประกาศนียบัตร จัดให้ความรู้เฉพาะทางและเทคโนโลยีเกี่ยวกับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์, ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์, เครือข่ายสารสนเทศ, ความปลอดภัยของข้อมูล ฯลฯ มุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อการศึกษาด้านจริยธรรมสารสนเทศ เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยของข้อมูล วิศวกรที่ทำงานในสาขาวิจัยและเทคโนโลยีด้านสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์และเครือข่ายข้อมูล และยังจัดหลักสูตรเพื่อฝึกฝนพัฒนาวิศวกรที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมสารสนเทศขั้นสูงได้
รายวิชาพื้นฐานทั่วไปในสาขาวิศวกรรมสารสนเทศมีดังต่อไปนี้
1) วิชาด้านปรัชญาวิศวกรรมกับพื้นฐานวิศวกรรม: วิชาพื้นฐานวิศวกรรมอุตสาหการ วิชาการรู้สารสนเทศ เป็นต้น
2) วิชาด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี
3) วิชาเอก: วิชาพื้นฐานของสาขาสารสนเทศ: วิชาเฉพาะทางพื้นฐานบนพื้นฐานความรู้สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์, ทฤษฎีสารสนเทศ, คณิตศาสตร์ไม่ต่อเนื่อง, โครงสร้างข้อมูลและอัลกอริธึม, การเขียนโปรแกรม, ระบบปฏิบัติการ, ฐานข้อมูล, เครือข่ายสารสนเทศ เป็นต้น
4) วิชาที่เกี่ยวข้องในการศึกษาความรู้ในสาขาอื่นที่นอกเหนือจากสาขาสารสนเทศ: วิชาสำหรับศึกษาความรู้พื้นฐานของวิชาโท (สาขาเครื่องกลและระบบควบคุม, สาขาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, สาขาเคมี ชีววิทยา และสิ่งแวดล้อม, สาขา Global) นอกเหนือจากวิชาเอก จำเป็นต้องเลือกวิชาโท 1 วิชา
5) วิชาที่เกี่ยวข้องกับทักษะความชำนาญ: วิชาปฏิบัติการทดลอง ได้แก่ การทดลองทางวิศวกรรมสารสนเทศ เป็นต้น
6) วิชาพื้นฐานทางสังคมที่จำเป็นในฐานะที่เป็นพลเมืองของสังคม: วิชาในสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์เพื่อความเข้าใจในกิจกรรมอุตสาหกรรม ความหลากหลายของมนุษย์และสังคม
7) วิชาฝึกฝนพัฒนาศักยภาพในการเข้าใจปัญหาข้ามวัฒนธรรมและระดับโลก: วิชา Global Awareness, วิชา Global PBL เป็นต้น
8) วิชาฝึกฝนพัฒนาทักษะความสามารถทางภาษาในเชิงปฏิบัติ: วิชา Discussion English,
วิชา Presentation English เป็นต้น
9) วิชาฝึกฝนพัฒนาศักยภาพในการคิดเชิงสร้างสรรค์และความสามารถทั่วไป: วิชาเพื่อฝึกฝนพัฒนาทักษะความสามารถโดยรวม เช่น ความสามารถในการนำเสนองาน ความสามารถในการสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ การคิดเชิงตรรกะ ได้แก่ การทดลอง PBL, การศึกษาวิจัยเพื่อจบการศึกษา เป็นต้น
10) วิชาที่เสริมสร้างทัศนคติและแนวทางความคิด: วิชาเพื่อเรียนรู้การทำงานเป็นทีม, การออกแบบอาชีพ, การควบคุมตนเอง ได้แก่ พลศึกษา และกิจกรรมพิเศษ เป็นต้น
สาขาเคมี ชีววิทยา และสิ่งแวดล้อม
สาขาเคมี ชีววิทยา และสิ่งแวดล้อมอบรมให้ความรู้ในวิชาเฉพาะทางพื้นฐานของสาขาเคมี ชีววิทยา และสิ่งแวดล้อมบนพื้นฐานความรู้เคมีอนินทรีย์, เคมีอินทรีย์, เคมีเชิงฟิสิกส์, วิศวกรรมเคมี, ชีวเคมี, เคมีสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังจัดหลักสูตรเพื่อฝึกฝนพัฒนาวิศวกรทางเคมีโดยรวมที่มีความสามารถในการปฏิบัติงานจากการทำการทดลองทางวิศวกรรมวัสดุและการศึกษาวิจัยเพื่อจบการศึกษา ฯลฯ
รายวิชาพื้นฐานทั่วไปในสาขาเคมี ชีววิทยา และสิ่งแวดล้อมมีดังต่อไปนี้
1) วิชาด้านปรัชญาวิศวกรรมกับพื้นฐานวิศวกรรม: วิชาพื้นฐานวิศวกรรมอุตสาหการ วิชาการรู้สารสนเทศ เป็นต้น
2) วิชาด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี
3) วิชาเอก: วิชาพื้นฐานของสาขาเคมี ชีววิทยา และสิ่งแวดล้อม: วิชาเฉพาะทางพื้นฐานบนพื้นฐานความรู้เคมีวิเคราะห์, เคมีอนินทรีย์, เคมีอินทรีย์, เคมีเชิงฟิสิกส์, วิศวกรรมเคมี, ชีวเคมี, เคมีสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
4) วิชาที่เกี่ยวข้องในการศึกษาความรู้ในสาขาอื่นที่นอกเหนือจากสาขาเคมี ชีววิทยา และสิ่งแวดล้อม: วิชาสำหรับศึกษาความรู้พื้นฐานของวิชาโท (สาขาเครื่องกลและระบบควบคุม, สาขาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, สาขาสารสนเทศ, สาขา Global) นอกเหนือจากวิชาเอก จำเป็นต้องเลือกวิชาโท 1 วิชา
5) วิชาที่เกี่ยวข้องกับทักษะความชำนาญ: วิชาปฏิบัติการทดลองด้านวิศวกรรมวัสดุ เป็นต้น
6) วิชาพื้นฐานทางสังคมที่จำเป็นในฐานะที่เป็นพลเมืองของสังคม: วิชาในสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์เพื่อความเข้าใจในกิจกรรมอุตสาหกรรม ความหลากหลายของมนุษย์และสังคม
7) วิชาฝึกฝนพัฒนาศักยภาพในการเข้าใจปัญหาข้ามวัฒนธรรมและระดับโลก: วิชา Global Awareness, วิชา Global PBL เป็นต้น
8) วิชาฝึกฝนพัฒนาทักษะความสามารถทางภาษาในเชิงปฏิบัติ: วิชา Discussion English,
วิชา Presentation English เป็นต้น
9) วิชาฝึกฝนพัฒนาศักยภาพในการคิดเชิงสร้างสรรค์และความสามารถทั่วไป: วิชาเพื่อฝึกฝนพัฒนาทักษะความสามารถโดยรวม เช่น ความสามารถในการนำเสนองาน ความสามารถในการสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ การคิดเชิงตรรกะ ได้แก่ การทดลอง PBL, การศึกษาวิจัยเพื่อจบการศึกษา เป็นต้น
10) วิชาที่เสริมสร้างทัศนคติและแนวทางความคิด: วิชาเพื่อเรียนรู้การทำงานเป็นทีม, การออกแบบอาชีพ, การควบคุมตนเอง ได้แก่ พลศึกษา และกิจกรรมพิเศษ เป็นต้น
การอนุมัติเก็บหน่วยกิตที่เกี่ยวข้องกับรายวิชาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการจัดสอบเป็นระยะ ๆ และยังมีการประเมินผลการส่งรายงาน ฯลฯ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละวิชา
ผลคะแนนของวิชาที่เรียน จะประเมินตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้
ยอดเยี่ยมพิเศษ (AA) | ยอดเยี่ยมมากเป็นพิเศษ | (90 – 100 คะแนน) |
---|---|---|
ยอดเยี่ยม (A) | ยอดเยี่ยม | (80 – 89 คะแนน) |
ดี (B) | ปานกลาง | (70 – 79 คะแนน) |
ผ่าน (C) | ค่อนข้างอ่อน | (60 – 69 คะแนน) |
ไม่ผ่าน (D) | ไม่ดี | (0 – 59 คะแนน) |
นโยบายการรับเข้าศึกษา (นโยบายการรับนักศึกษาเข้าเรียน)
ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการเปิดรับผู้ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1) ผู้ที่ชอบวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และมีผลการเรียนดีเยี่ยม
2) ผู้ที่มีความสนใจในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมีแรงจูงใจอยากที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีและความรู้ใหม่ ๆ
3) ผู้ที่ต้องการศึกษาหาความรู้ทางภาษา, วัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์, สังคมของประเทศตนเองและประเทศอื่น ๆ อย่างลึกซึ้ง และต้องการมีความรู้พื้นฐานทางสังคมอย่างสมบูรณ์นอกเหนือจากสาขาวิชาเฉพาะ
4) ผู้ที่ต้องการนำความรู้เฉพาะทางและเทคโนโลยีมาสร้างประโยชน์ต่อสังคมด้วยมุมมองในระดับสากล
5) บุคคลที่ต้องการมีทักษะความสามารถในการสื่อสารที่สามารถทำงานได้ในสังคมระดับนานาชาติและอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์พื้นฐานได้ในฐานะพลเมืองของสังคม
6) ผู้ที่สามารถตัดสินและดำเนินการด้วยความคิดเห็นของตนเองได้โดยให้ความเคารพต่อผู้อื่นและสามารถทำงานเป็นทีมได้
7) ผู้ที่มีลงมือปฏิบัติและพยายามมุ่งไปสู่อนาคตตนเองได้
ภาควิชาวิศวกรรมการออกแบบระบบเทคโนโลยีอุตสาหกรรมขั้นสูง (หลักสูตรขั้นสูง)
วัตถุประสงค์ของภาควิชาวิศวกรรมการออกแบบระบบเทคโนโลยีอุตสาหกรรมขั้นสูง
จัดให้การศึกษาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับวิศวกรรมเฉพาะทาง (วิศวกรรมเครื่องกล, วิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, วิศวกรรมสารสนเทศ และเคมีประยุกต์) พร้อมกับอบรมให้ความรู้ในสาขาอื่น และฝึกฝนพัฒนาวิศวกรเชิงปฏิบัติที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีความมุ่งมั่นในการค้นพบ ปรับแก้ และมุ่งแก้ไขปัญหาในสาขาความรู้เฉพาะทางและความรู้ที่ผสมผสานในสาขาอื่น ๆ ได้ด้วยตนเอง ภาควิชาการออกแบบระบบเทคโนโลยีอุตสาหกรรมขั้นสูงแบ่งเป็นคอร์สวิศวกรรมเครื่องกลขั้นสูง, คอร์สวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง, คอร์สวิศวกรรมสารสนเทศขั้นสูง และคอร์สเคมีประยุกต์ขั้นสูง
นโยบาย 3 ประการของภาควิชาวิศวกรรมการออกแบบระบบเทคโนโลยีอุตสาหกรรมขั้นสูง
เพื่อที่จะจัดให้การศึกษาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับวิศวกรรมเฉพาะทาง (วิศวกรรมเครื่องกล,วิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, วิศวกรรมสารสนเทศ และเคมีประยุกต์) พร้อมกับอบรมให้ความรู้ในสาขาอื่น และฝึกฝนพัฒนาวิศวกรเชิงปฏิบัติที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่มีความมุ่งมั่นในการค้นพบ ปรับแก้ และมุ่งแก้ไขปัญหาในสาขาความรู้เฉพาะทางและความรู้ที่ผสมผสานในสาขาอื่น ๆ ได้ด้วยตนเอง ทางภาควิชาจะอนุมัติจบการศึกษาให้นักศึกษาที่เก็บหน่วยกิตครบตามเกณฑ์ที่กำหนด และมีทักษะความสามารถดังต่อไปนี้
นโยบายประกาศนียบัตร (นโยบายอนุมัติการสำเร็จการศึกษา)
จะอนุมัติการสำเร็จการศึกษาให้แก่นักศึกษาที่เก็บหน่วยกิตครบตามเกณฑ์ที่กำหนด และมีทักษะความสามารถที่สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ของภาควิชาวิศวกรรมการออกแบบระบบเทคโนโลยีอุตสาหกรรมขั้นสูงดังต่อไปนี้
ทักษะความสามารถที่จะได้เรียนรู้จนสำเร็จการศึกษา (เป้าหมายการเรียนรู้และการศึกษา)
(A) ทักษะความรู้พื้นฐานด้านวิศวกรรม
(B) ทักษะความชำนาญในการออกแบบระบบและความรู้เฉพาะทางด้านวิศวกรรมแบบผสานรวมและแบบบูรณาการ
(C) ทักษะความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกิจกรรมอุตสาหกรรม
(D) จริยธรรมของวิศวกรบนพื้นฐานความเข้าใจธรรมชาติและค่านิยมที่ดีในฐานะพลเมืองของสังคม
(E) ความรู้ความเข้าใจในระดับนานาชาติบนพื้นฐานความรู้พื้นฐานทางสังคมที่สมบูรณ์
(F) ทักษะความสามารถในการสื่อสารและทักษะในการนำเสนอ
และจากการเรียนรู้นักศึกษาจะต้องบรรลุเป้าหมายดังต่อไปนี้
(1) การมีความรู้ความเข้าใจในความรู้ที่ทันสมัยจากการศึกษาหลักสูตรอนุปริญญาสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี) ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของวิศวกรและสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาทางวิศวกรรม
(2) การศึกษาความรู้ในสาขาวิศวกรรมพื้นฐานด้านออกแบบและระบบ, สารสนเทศและตรรกะ, วัสดุและชีวภาพ, กลศาสตร์, เทคโนโลยีทางสังคม และสามารถเข้าถึงปัญหาทางวิศวกรรมจากมุมมองที่ผสมผสานหรือรวมเข้าด้วยกันผ่านการศึกษาหลักสูตรอนุปริญญา
(3) การศึกษาความรู้วิศวกรรมเฉพาะทาง (วิศวกรรมเครื่องกล, วิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, วิศวกรรมสารสนเทศ, เคมีประยุกต์) ของแต่ละคอร์สอย่างลึกซึ้ง ศึกษาความรู้เฉพาะทางในสาขาอื่น และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาในสาขาที่ผสมผสานหรือรวมเข้าด้วยกันได้อย่างกว้างขวาง
(4) การมีความสามารถในร่วมมือและทำงานเป็นทีมกับผู้เชี่ยวชาญจากสาขาอื่น วางแผนและดำเนินการทดลองเพื่อมุ่งไปสู่การแก้ไขปัญหาทางวิศวกรรมจากมุมมองของวิศวกรรมที่เป็นมิตรกับมนุษย์ได้
(5) การมีความสามารถในการนำความรู้เฉพาะทางด้านวิศวกรรมมาใช้ประโยชน์ คิดริเริ่มอย่างสร้างสรรค์ต่อการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในเชิงปฏิบัติด้วยตนเอง และสามารถกำหนดแผนการสำหรับแก้ไขปัญหาและดำเนินการอย่างได้อย่างต่อเนื่องภายใต้ข้อจำกัด ผ่านการตระเตรียมการวิจัยพิเศษหรือการนำเสนอในงานวิชาการเพื่อพัฒนาทักษะความสามารถในการออกแบบทางวิศวกรรม
(6) การศึกษาความรู้ต่าง ๆ เช่น สัญญา กลไกของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมในฐานะที่เป็นวิศวกรจากมุมมอง “Monozukuri” ซึ่งเป็นมิตรต่อมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีความรู้พื้นฐานทางการเงิน ต้นทุน ฯลฯ และให้คำอธิบายเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ได้
(7) การศึกษาความรู้ต่าง ๆ เช่น สัญญา กลไกของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมในฐานะที่เป็นวิศวกรจากมุมมอง “Monozukuri” ซึ่งเป็นมิตรต่อมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีความรู้พื้นฐานทางการเงิน ต้นทุน ฯลฯ และให้คำอธิบายเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ได้
(8) การศึกษาความรู้พื้นฐานทางสังคมที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และคิดพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ได้จากจุดยืนที่มีความเป็นสากลผ่านการศึกษาหลักสูตรอนุปริญญา
(9) การมีทักษะความสามารถภาษาอังกฤษในเชิงปฏิบัติงาน นำเสนอผลการวิจัยในงานวิชาการ และมีความสามารถในการสื่อสารและทักษะการนำเสนอขั้นสูง
นโยบายหลักสูตร (การจัดหลักสูตรและนำนโยบายไปปฏิบัติ)
รายวิชาพื้นฐานทั่วไปเพื่อฝึกฝนพัฒนาทักษะความสามารถตามที่กำหนดไว้ในนโยบายประกาศนียบัตรมีดังต่อไปนี้
1) วิชาพื้นฐานวิศวกรรมเฉพาะทางของวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ เทคโนโลยีสารสนเทศ (วิศวกรรมเครื่องกล, วิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, วิศวกรรมสารสนเทศ, เคมีประยุกต์) และของแต่ละคอร์ส ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของวิศวกรผ่านคุณลักษณะของการศึกษาแบบบูรณาการในช่วงต้น: เคมีสมัยใหม่, คณิตศาสตร์สมัยใหม่ I, กลศาสตร์ควอนตัม, ฟิสิกส์สมัยใหม่, ฟิสิกส์ของสสารควบแน่น, คณิตศาสตร์สมัยใหม่ II เป็นต้น
2) วิชาที่เกี่ยวกับการออกแบบและระบบ, สารสนเทศและตรรกะ, วัสดุและชีวภาพ, กลศาสตร์, เทคโนโลยีสังคม: ประวัติความเป็นมาของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, วิศวกรรมการออกแบบเบื้องต้น, วิศวกรรมพลังงานเบื้องต้น, คอมพิวเตอร์เบื้องต้น, ระบบอัจฉริยะเบื้องต้น, วัสดุอินทรีย์เบื้องต้น เป็นต้น
3) วิชาเพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับวิศวกรรมเฉพาะทาง (วิศวกรรมเครื่องกล, วิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, วิศวกรรมสารสนเทศ, เคมีประยุกต์) ของแต่ละคอร์ส: งานเครื่องจักร, กลศาสตร์ของไหล, วิศวกรรมระบบพลังงานไฟฟ้า, วิศวกรรมสมบัติทางฟิสิกส์อิเล็กทรอนิกส์, ทฤษฎีรหัส, คอมไพเลอร์, วิศวกรรมซอฟต์แวร์ขั้นสูง, เคมีเชิงเร่งปฏิกิริยาขั้นสูง, วัสดุเฉพาะทางขั้นสูง เป็นต้น
4) วิชาเฉพาะทางเพื่อจัดการแก้ไขปัญหาทางวิศวกรรมที่ผสมผสานหรือรวมเข้าด้วยกัน: การทดลองพิเศษ, ทฤษฎีการออกแบบระบบ, วิศวกรรมการออกแบบเบื้องต้น, กลศาสตร์อุตสาหกรรมเบื้องต้น, การวัดและระบบควบคุมเบื้องต้น, วิศวกรรมพลังงานเบื้องต้น, คอมพิวเตอร์เบื้องต้น, ระบบอัจฉริยะเบื้องต้น, วัสดุอินทรีย์เบื้องต้น, เทคโนโลยีชีวภาพเบื้องต้น เป็นต้น
5) วิชาที่จำเป็นและสนับสนุนส่งเสริม “Monozukuri” ที่เป็นมิตรกับมนุษย์: การทดลองพิเศษ, ทฤษฎีการออกแบบระบบ เป็นต้น
6) วิชาการทดลองที่มุ่งไปสู่การแก้ไขปัญหาทางวิศวกรรมโดยร่วมมือและทำงานเป็นทีมกับผู้เชี่ยวชาญจากสาขาอื่น: การทดลองพิเศษ เป็นต้น
7) วิชาพื้นฐานเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจโลก จริยธรรมของวิศวกร ทรัพย์สินทางปัญญาซึ่งจำเป็นสำหรับวิศวกรในการปฏิบัติหน้าที่เมื่ออยู่ในสังคมจริง: หลักทรัพย์สินทางปัญญาขั้นสูง, เศรษฐกิจระหว่างประเทศ, นโยบายเศรษฐกิจ, ประวัติความเป็นมาของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, จริยธรรมของวิศวกร, วิทยาศาสตร์โลกและสิ่งแวดล้อม
8) วิชาที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยม ภูมิอากาศ เศรษฐกิจและภาษาต่างประเทศที่ช่วยให้เข้าใจในความหลากหลายของค่านิยม วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ส่งเสริมการเคารพในวัฒนธรรมและค่านิยมของประเทศตนเอง และช่วยให้พิจารณาถึงสิ่งต่าง ๆ จากจุดยืนที่มีความเป็นสากลได้: เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ, นโยบายเศรษฐกิจ, การศึกษาประวัติศาสตร์สมัยใหม่, ความคิดสมัยใหม่, ภาษาอังกฤษสมัยใหม่ I, ภาษาอังกฤษสมัยใหม่ II, การวิจัยพิเศษ, การฝึกอบรมภาคปฏิบัติ, การฝึกอบรมภาคปฏิบัติในต่างประเทศ
9) วิชาที่ฝึกฝนพัฒนาความสามารถในการอภิปราย นำเสนอ และอธิบายโดยใช้ภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษได้อย่างสมเหตุสมผล: การทดลองพิเศษ, การวิจัยพิเศษ, ภาษาอังกฤษสมัยใหม่ I, ภาษาอังกฤษสมัยใหม่ II
การอนุมัติเก็บหน่วยกิตที่เกี่ยวข้องกับรายวิชาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการจัดสอบเป็นระยะ ๆ และยังมีการประเมินผลการส่งรายงาน ฯลฯ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละวิชา
ผลคะแนนของวิชาที่เรียน จะประเมินตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้
ยอดเยี่ยมพิเศษ (AA) | ยอดเยี่ยมมากเป็นพิเศษ | (90 – 100 คะแนน) |
---|---|---|
ยอดเยี่ยม (A) | ยอดเยี่ยม | (80 – 89 คะแนน) |
ดี (B) | ปานกลาง | (70 – 79 คะแนน) |
ผ่าน (C) | ค่อนข้างอ่อน | (60 – 69 คะแนน) |
ไม่ผ่าน (D) | ไม่ดี | (0 – 59 คะแนน) |
นโยบายการรับเข้าศึกษา (นโยบายการรับนักศึกษาเข้าเรียน)
ภาควิชาขั้นสูงเปิดรับผู้ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1) ผู้ที่มีทักษะความรู้ความสามารถขั้นพื้นฐานในสาขาเฉพาะทาง
2) ผู้ที่ต้องการศึกษาหาความรู้และเทคโนโลยีขั้นสูงยิ่งขึ้นในสาขาเฉพาะทาง
3) ผู้ที่ต้องการมีความรู้อย่างกว้างขวางในสาขาเฉพาะทางอื่น ไม่ใช่เพียงแค่สาขาเฉพาะทางของตน
4) ผู้ที่ต้องการนำความรู้ความชำนาญเฉพาะทางมาทำประโยชน์ต่อสังคม
5) ผู้ที่มีจริยธรรมในฐานะที่เป็นวิศวกรและมีมุมมองในระดับสากล และสามารถปฏิบัติตนตามนั้นได้
องค์กร
การเดินทาง
ข้อมูลการเดินทาง
รถไฟ:
อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR Katsuta สาย Joban ประมาณ 2.8 กิโลเมตร, นั่งแท็กซี่ 5 นาที, นั่งรถบัส 10 นาที (ขึ้นรถบัส Ibaraki Koutsu Bus ที่ “ป้ายเบอร์ 2” ซึ่งอยู่ทางประตูตะวันออกของสถานี Katsuta โดยขึ้นรถบัสที่จะไป “Higashi Nakane Danchi” หรือ “Chuo Kenshuu-jo” หรือ “Kaihin Kouen Minami Guchi” จากนั้นลงรถบัสที่ป้าย “Ibaraki Kosen Mae”
รถยนต์:
ประมาณ 15 นาทีจาก Hitachinaka IC ของทางด่วน Higashi Mito ที่เชื่อมต่อมาจากทางด่วน Kita Kanto